ฉลากยา (Drug label) เป็นเอกสารระบุรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
-ชื่อยา ทั้งชื่อการค้า และชื่อยาสามัญ (อ่านเพิ่มเติมในเว็บhaamor.com บทความเรื่อง ประเภทยา: ชื่อสามัญและยาต้นแบบ และเรื่อง ยาต้นแบบ ยาสามัญ) พร้อมทั้งปริมาณตัวยาต่อหน่วย เช่น มิลลิกรัม/เม็ด มิลลิกรัม/ช้อนชา เป็นต้น
-สรรพคุณที่ใช้รักษาโรค
-ขนาดและวิธีใช้/ขนาดรับประทานของเด็ก ผู้ใหญ่
-บริษัทผู้ผลิต พร้อมที่อยู่
-ประเภทของยาว่าเป็นประเภทอะไร เช่น ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ ยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 1, 2, 3 หรือ 4 หรือยาสามัญประจำบ้าน
-เลขที่ผลิต วันที่ผลิต วันหมดอายุ
-เลขที่ทะเบียนยาที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองอนุญาต
เอกสารกำกับยา
เอกสารกำกับยา (Patient
information leaflet) เป็นเอกสารระบุรายละเอียดต่างๆของยา
โดยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับยาในเชิงลึกมากกว่าฉลากยา ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเชิงวิชาการ
โดย ทั่วไปเอกสารกำกับยาจะประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้
-ชื่อยาที่เป็นชื่อการค้า โดยใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
-สูตรยา ที่แจกแจงรายละเอียดของชื่อสามัญ (ชื่อจริงของยา)
ของตัวยาสำคัญ โดยระบุน้ำหนักต่อหน่วย เช่น 500 มิลลิกรัม/เม็ด 125 มิลลิกรัม/ช้อนชา
-ลักษณะยา โดยบ่งบอกเป็นยาน้ำ ยาเม็ด ยาแคปซูล ยาฉีด ยาผง ยาครีม
ยาขี้ผึ้ง ฯลฯ และบ่งบอกสี กลิ่น รส เคลือบฟิล์ม เคลือบน้ำตาล
ซึ่งเป็นลักษณะประจำตัวของยานั้นๆ
-คุณสมบัติในการรักษาโรค โดยระบุรายละเอียด
และกลไกของยาที่ออกฤทธิ์ในการรักษาโรค มักใช้คำศัพท์วิชาการมาบรรยายเนื้อหา
จึงเป็นการยากที่จะทำความเข้าใจ
-ขนาดวิธีใช้ วิธีรับประทาน ตามน้ำหนัก อายุ ลักษณะความเจ็บป่วย
โดยจะมีระยะเวลาของการใช้ยากำกับมาด้วย
ข้อห้ามใช้
เป็นการระบุการห้ามใช้ยากับผู้ที่แพ้ยาหรือผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังบางอย่าง
ซึ่งเมื่อใช้ยานั้นๆอาจทำให้เกิดอันตรายได้
-คำเตือนและข้อควรระวัง เป็นการระบุและเฝ้าระวังก่อนใช้ยา
โดยมักระบุถึงความน่าจะเป็น หรืออาจเกิดโทษต่อระบบต่างๆของร่างกาย เช่น
ต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือด ต่อทารกในครรภ์
ต่อเด็กที่ต้องดื่มนมแม่ ฯลฯ หากผู้บริโภคทำความเข้าใจ
ก็จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้การใช้ยามีความปลอดภัยมากขึ้น
-ผลข้างเคียงของการใช้ยา ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลังการใช้ยานั้นๆ
โดยแสดงอาการที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆต่อร่างกาย
ผลข้างเคียงของยาอาจจะเกิดหรือไม่เกิดกับใครคนใดคนหนึ่ง ทั้งนี้ขึ้น อยู่กับการตอบสนองของร่างกายของแต่ละคนไป
อีกทั้งยังขึ้นกับระดับหรือปริมาณยาที่ได้รับเข้าไปด้วย
-ปฏิกิริยากับยาอื่นๆ (ปฏิกิริยาระหว่างยา)
ในขณะที่ผู้ป่วยได้รับยามากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป
ยาแต่ละชนิดอาจทำปฏิกิริยากันจนส่งผลเสียต่อร่างกาย
หรือหมดคุณสมบัติของการรักษาโรค ในข้อนี้เอกสารกำกับยาจะระบุชื่อยาที่มีปฏิกิริยาซึ่งกันและกัน
และกล่าวถึงผลลัพธ์ที่จะติดตามมา
-การใช้ยาในสตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่อยู่ในสภาวะให้นมบุตร
โดยจะกล่าวถึงข้อห้ามใช้ การกระจายตัวของยาจากแม่สู่ทารก ดังนั้น
จึงเป็นข้อตระหนักของประชาชนโดยทั่วไปว่า ไม่สมควรซื้อยารับประทานเองในขณะที่ตั้งครรภ์
หรืออยู่ในภาวะให้นมบุตร ด้วยยาหลายชนิดมีอันตรายต่อเด็กและต่อมารดาที่ตั้งครรภ์
-คุณสมบัติทางเภสัชวิทยา
โดยระบุกลไกหรือวิธีการที่ยาออกฤทธิ์ต่อร่างกาย รวมไปถึงการดูดซึม
และการกระจายตัวของยาไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ จนกระทั่งการขับยาออกจากร่าง กาย
-วิธีเก็บรักษา ด้วยเหตุผลในการคงคุณภาพของยา
และรักษาอายุของยาได้ตามกำหนด โดยระบุถึงเงื่อนไขที่ใช้ในการเก็บยา เช่น
เก็บให้พ้นแสงแดด เก็บให้พ้นมือเด็ก เก็บในที่อุณหภูมิไม่เกินกี่องศา
เก็บในที่แห้ง อยู่ในภาชนะที่ปิดสนิทมิดชิดไม่สัมผัสกับอากาศภายนอก
-ขนาดบรรจุ จะระบุปริมาณบรรจุยาต่อภาชนะที่ใช้บรรจุ เช่น บรรจุ 1,000 เม็ด/ขวด บรรจุ 180 ซีซี/ขวด
-บริษัทผู้ผลิตพร้อมที่อยู่
อนึ่ง
รายละเอียดของเอกสารกำกับยาของแต่ละบริษัทอาจมีข้อมูลมากกว่าหรือน้อยกว่าหัวข้อข้างต้น
หากผู้บริโภคสามารถอ่านและศึกษาทำความเข้าใจก็จะเป็นประโยชน์ต่อการนำไป
ใช้ได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อมีข้อสงสัยในเรื่องของยา ควรปรึกษาแพทย์ พยาบาล และ/หรือ
เภสัชกร เพิ่มเติมเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น